×

HOW TO SHOP

1 Login or create new account.
2 Review your order.
3 Payment & FREE shipment

If you still have problems, please let us know, by sending an email to support@website.com . Thank you!

SHOWROOM HOURS

Mon-Fri 9:00AM - 6:00AM
Sat - 9:00AM-5:00PM
Sundays by appointment only!

FORGOT YOUR DETAILS?

Saturday, 06 June 2015 / Published in Uncategorized

วิธีเลือก-วอลเปเปอร์ติดผนัง

วอลเปเปอร์ติดผนัง เป็นวัสดุที่ใช้ตกแต่งผนัง ที่สร้างสรรค์ความเป็นศิลปะในด้านของลวดลาย สีสัน ให้ความหรูหรา สวยงาม เพิ่มคุณค่าให้กับผนังต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นบ้าน ที่พักอาศัย อาคาร สำนักงาน สถานที่ราชการ หรืออื่นๆ ซึ่งเป็นการใช้งบประมาณที่น้อยกว่าวัสดุอื่นที่ใช้ตกแต่งผนัง วอลเปเปอร์ยังให้ความสวยงามที่หลากหลาย ตามสไตล์ของการออกแบบหรือแนวการตกแต่ง สร้างสรรค์ลวดลายตามจินตนาการที่คุณชื่นชอบ ก่อนการเลือกใช้วอลเปเปอร์ ควรทำความเข้าใจเบื้องต้นเพื่อเป็นพื้นฐานและแนวทางในการเลือกใช้และเป็นพื้นฐานในการตัดสินใจ เนื่องจากวอลเปเปอร์มีวัสดุที่ใช้กันอยู่ในปัจจุบัน มีวัสดุ มีลวดลวดลาย มีสีสันให้เลือกค่อนข้างหลากหลาย ทั้งในรูปแบบหรือสไตล์ต่างๆ รวมทั้งวัสดุที่ใช้ในการผลิต ขนาดความยาวความกว้างของวอลเปเปอร์ เพื่อให้ตรงตามในสิ่งที่ต้องการ และผลที่จะตามมาเช่น อายุการใช้งาน การดูแลรักษา ผลข้างเคียงที่อาจมีผลต่อสุขภาพ การรักษาสิ่งแวดล้อม มาทำความเข้าใจว่าสิ่งไหนที่ตรงกับความต้องการของคุณมากที่สุด

อันดับแรกคือเรื่องของวัสดุ วิธีเลือก วัสดุ วอลเปเปอร์

  1. ถ้าเน้นอายุการใช้งานที่ยาวนาน การดูแลรักษาง่าย ควรเลือกวอลเปเปอร์ ไวนิล เนื่องจากวอลเปเปอร์ไวนิลที่มีผิวกคล้าย PVC มีคุณสมบัติพิเศษหลายๆด้าน ไม่ว่าจะเป็นการสร้างลวดลายที่สวยงาม สร้างมิติความลึก-ตื้นได้อย่างลงตัว ที่สำคัญวอลเปเปอร์ที่ทำจากไวนิลนั้น มีผิวที่ทนทาน แข็งแรง ลดความเสียหายจากการกระแทก หรือการขูดขีดที่อาจไม่ตั้งใจ เรื่องการดูแลรักษาก็ง่าย เนื่องจากผิวของไวนิลไม่ซึมน้ำ สามารถใช้ผ้าชุบน้ำเช็ดโดยออกแรงๆได้
  2. ถ้าสกปรกมากยังสามมารถใช้แปรงที่ขนแปรงไม่แข็งมากขัดทำความสะอาดได้ในระดับหนึ่ง ด้วยความทนทานต่อแรงกดและการเสียดสี ลวดลายไม่ซีดจางง่าย ทำความสะอาดง่าย
  3. ถ้าเน้นเรื่องความนุ่มนวล ให้สัมผัสที่ไม่แข็งกระด้าง สร้างความอบอุ่น อ่นนุ่ม บรรยากาศนุ่มนวน สบายๆ ควรเลือกวอลเปเปอร์ชนิดที่มีผิวเป็นโฟม ซึ่งจะให้ความหนานุ่ม ให้ลวดลายมีมิติ ดูนุ่มนวล มีความสุข สร้างความอบอุ่นมากกว่า ช่วยซับเสียงได้มากกว่า ปิดรอยไม่เรียบของผนังและเพดานได้มากกว่า
  4. ถ้าเน้นเรื่องสดใส สนุกสนาน ร่าเริง ต้องเลือกวอลเปเปอร์ไวนิลกึ่งโฟม ที่สร้างสีและบรรยากาศสมัยใหม่ ทันสมัย ที่ให้สีและลายร่วมสมัย สร้างสรรค์ อย่างสดใส มีชีวิตชีวา มีลายให้เลือกหลากหลายอารมย์
  5. ถ้าเน้นเรื่องการรักษาสิ่งแวดล้อม ลดผลข้างเคียงจากสารเคมี เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ต้องเลือกวอลเปอร์ที่ทำจากกระดาษ ลวดลายพิมพ์ด้วยสีน้ำ ปราศจากสารเคมี ให้ความรู้สึกเรียบง่าย ผ่อนคลาย สร้างความแตกต่าง หนีรูปแบบเดิมๆ แต่มีข้อจำกัด เรื่องการดูแลรักษา และอายุการใช้งานน้อยกว่า
  6. ถ้าเน้นเรื่องคุณค่า ความ สวยงามจากธรรมชาติ สร้างความเป็นเอกลักษณ์ คงคุณค่าจากวัสดุธรรมชาติ ควรเลือกวอลเปเปอร์ผ้า เยื้อไม้ หรือวัสดุอื่นที่ผลิดจากธรรมชาติ

วิธีเลือก ลาย วอลเปเปอร์

  1. วอลเปเปอร์ลายใหญ่ สีเข้ม ไม่เหมาะกับห้องเล็กหรือผนังเล็กและแคบ แต่ถ้าชอบก็ทำได้ ควรใช้กับผนังด้านใดด้านหนึ่ง หรือบางส่วนของห้อง เท่านั้น เช่นหัวเตียง หรื่อส่วนที่ต้องการความโดดเด่น ไม่ควรเลือกวอลเปเปอร์ลายดังกล่าวทั้งห้องหรือผนังทุกด้าน เนื่องจากวอลเปเปอร์บางลายอาจดูรก ลายตาเยอะ เวียนหัว เบื่อเร็ว อาจทำให้ห้องแคบ และยังเปลืองงบประมาณมากกว่า เนื่องจากระยะการตัดต่อลายที่ใหญ่ จะเสียเศษมากกว่า
  2. วอลเปเปอร์ที่มีสีอ่อน ลายเรียบ ลายเล็ก จะช่วยทำให้ห้องกว้าง เหมาะกับการตกแต่ง ห้องที่มีเฟอร์นิเจอร์บิวส์อิน หรือเหรือการตกแต่งที่มีลายละเอียดมากๆ ห้องเล็กมีพื้นที่จำกัด หรือพื้นที่คับแคบ วอลเปเปอร์สีดัวกล่าวจะยิ่งช่วยทำให้ห้องสว่าง ห้องกว้าง ดูสบายตามากขึ้น ประหยัดการใช้ปริมาณวอลเปเปอร์มากกว่า เนื่องจากการต่อลายเสียเศษน้อยกว่า
  3. วอลเปเปอร์ลายทาง ลายเส้น ช่วยทำให้ห้องดูสูงขึ้น เหมาะสำหรับห้องที่มีเพดานเตี๊ย วอลเปเปอร์ลายทาง ดูดี ดูได้นาน ไม่เบื่อง่าย แต่งห้องง่าย ควรเลือกลายวอลเปเปอร์ ให้เข้ากับสไตล์การตกแต่ง แนวใดแนวนหนึ่งตามการออกแบบ ถ้าต้องผสม ต้องดูสีให้เข้ากันหรือลายไปกันได้ โดยนำมาเปรียบเทียบหลายๆ โทนสี ซึ่งการเลือกใช้สีไม่จำเป็นกลมกลืนเพียงอย่างเดียว อาจใช้สีอื่นมาตัดหรือผสมกันได้ ซึ่งจะช่วยสร้างความโดดเด่น แตกต่าง สดุดตาเพิ่มขึ้น

การเลือกวอลล์เปเปอร์-01         การเลือกวอลล์เปเปอร์-02         การเลือกวอลล์เปเปอร์-03

Friday, 05 June 2015 / Published in Uncategorized

     ผ้าม่านเป็นของแต่งบ้านซึ่งเจ้าของบ้านมักจัดอยู่ในลิสต์ท้ายๆ ของรายการ ทั้งที่มีความจำเป็นพอๆ กับเรื่องเฟอร์นิเจอร์เลย นอกจากจะช่วยกรองแสงแดดแล้ว ยังเป็นตัวแปรสำคัญในการเปลี่ยนบรรยากาศภายในบ้านให้น่าอยู่ขึ้นด้วยปัญหาสำคัญที่ทำให้เจ้าของบ้านหลายท่านคิดไม่ตกก็คือตัดสินใจไม่ถูกว่าจะเลือกม่านแบบไหนให้เหมาะกับห้องต่างๆ ในบ้าน วันนี้ “บิวตี้โฮมดีไซน์ผ้าม่าน” จึงมีไอเดียเลือกใช้ผ้าม่านให้สวยและถูกที่ถูกทางมาฝากกันค่ะ

     การเลือกรูปแบบและชนิดของม่านเพื่อใช้ในห้องต่างๆ ไม่มีกฎตายตัว แต่ควรดูองค์ประกอบอื่นๆ ควบคู่กันไปด้วย โดยเลือกชนิดของม่านที่เหมาะสมกับขนาดของบานหน้าต่างและความสูงของห้อง เช่น ในห้องเพดานเตี้ยและมีหน้าต่างบานเล็กก็ควรเลือกใช้มู่ลี่แทนม่านจีบลอนใหญ่ๆ ซึ่งจะยิ่งทำให้ห้องดูเตี้ยและน่าอึดอัด

blank

blank

  • ห้องนอน
    เหมาะจะใช้ม่านจีบ เพราะความนุ่มนวลของผ้าจะช่วยเสริมให้บรรยากาศในห้องนอน ทั้งยังช่วยบังแสงลอดแยงตาได้ดี โดยเฉพาะในช่วงเช้า ไม่แนะนำให้แบ่งม่านจีบเป็นผืนเล็กๆ อย่างมู่ลี่หรือม่านพับ เพราะแสงอาจลอดผ่านมารบกวนสายตาได้
  • ครัว
    ถือเป็นส่วนที่เลอะเทอะง่ายมากที่สุดในบ้านทางที่ดีควรเลี่ยงการติดมานจะดีกวาหรือถ้าอยากได้จริงๆ ควรเลือกม่านที่ทำความสะอาดง่าย ไม่เก็บฝุ่น และเปิดให้แสงเข้าได้ง่าย
  • ห้องนั่งเล่น
    สามารถเลือกใช้ม่านได้หลายแบบ ไม่ว่าจะเป็นม่านจีบ ม่านพับ หรือมู่ลี่ไม้ ขึ้นอยู่กับสไตล์การตกแต่งห้อง ขนาดหน้าต่าง รวมถึงการใช้งาน เช่น หน้าต่างบานใหญ่และกว้าง เปิดบ่อยไม่ควรใช้มู่ลี่ไม้ เพราะน้ำหนักค่อนข้างมาก การดึงเก็บขึ้นบ่อยๆ อาจทำให้อุปกรณ์เสียหายได้ง่าย
  • ห้องน้ำ
    ไม่ควรใช้ม่านผ้ากับส่วนเปียกอย่างส่วนอาบน้ำฝักบัว เพราะความชื้นจะทำให้ผ้าขึ้นราได้ง่าย หากจะใช้ควรเป็นม่านพลาสติก สำหรับส่วนแห้งอย่างโถสุขภัณฑ์หรืออ่างอาบน้ำ มู่ลี่น่าจะเหมาะสมที่สุด ถ้าอยากได้ความรู้สึกอบอุ่นเป็นธรรมชาติก็เลือกใช้มู่ลี่ไม้ หากบ้านแต่งในสไตล์โมเดิร์นก็ใช้มู่ลี่อะลูมิเนียม และควรติดมู่ลี่เหนือขอบอ่างอาบน้ำ เพื่อความเป็นส่วนตัวและน้ำจะได้ไม่กระเซ็นไปโดน
  • ส่วนทำงานหรือพื้นที่แคบ
    อาจใช้ม่านปรับแสงแนวตั้งหรือม่านม้วนที่สามารถมองเห็นวิวภายนอกได้ ม่านทั้งสองชนิดนี้ช่วยกรองแสงจ้าๆ จากภายนอกได้ดี เพื่อให้แสงสว่างส่องเข้ามาอย่างเพียงพอกับการทำงานชนิดของม่าน

     หลักการเลือกผ้าม่าน-03     หลักการเลือกผ้าม่าน-02     หลักการเลือกผ้าม่าน-04


ชนิดของม่าน

  • ม่านจีบ ม่านผ้าที่มีลักษณะจีบเป็นลอนๆส่วนใหญ่นิยมติดตั้งเป็นม่านสองชั้น คือ ม่านโปร่งและม่านทึบ ม่านชนิดนี้เหมาะกับหน้าต่างบานใหญ่และจำเป็นต้องมีรางด้านบนแต่จะเลือกโชว์รางหรือซ่อนรางก็แล้วแต่ความต้องการของเจ้าของบ้านจึงควรเผื่อพื้นที่เหนือขอบหน้าต่างอย่างน้อย20 เซนติเมตร
  • ม่านพับ ม่านผ้าที่ใช้รอกในการดึงผ้าจากด้านล่างขึ้นด้านบนโดยพับทบไปมา เหมาะกับหน้าต่างบานเล็กในแนวตั้ง
    หรือหน้าต่างด้านที่แสงสว่างไม่ส่องเข้ามาเต็มๆ เช่นด้านทิศเหนือ
  • ม่านม้วน ส่วนใหญ่มักทำจากผ้าใยสังเคราะห์เนื้อผ้าก็จะมีการเคลือบสารป้องกันแสงแดดและรังสียูวีใช้ระบบรอกหรือมอเตอร์ในการเปิด ราคาค่อนข้างสูงแต่ใช้พื้นที่ในการติดตั้งน้อยและใช้ได้กับหน้าต่างบานเล็กไปจนถึงบานใหญ่มากๆ
  • มู่ลี่ หลักๆ ที่นิยมใช้มี 2 ชนิด คือ มู่ลี่ไม้และมู่ลี่อะลูมิเนียมทำสีลักษณะเหมือนบานเกล็ดแนวนอน ขนาดของใบมู่ลี่
    มีให้เลือกทั้งเล็กและใหญ่เหมาะกับหน้าต่างบานเล็กหรือหน้าต่างที่ไม่ได้ใช้งานบ่อยๆ
  • ม่านปรับแสง เป็นมู่ลี่แนวตั้ง สามารถหมุนปรับได้ 180 องศาใบมู่ลี่มีขนาดค่อนข้างใหญ่ส่วนใหญ่มักทำจากวัสดุสังเคราะห์ซึ่งช่วยกรองแสงแดดได้ดี เช่นพอลิเอสเตอร์ ไฟเบอร์-กลาส หรืออะลูมิเนียมเหมาะกับหน้าต่างบานใหญ่และอยู่ในทิศทางที่แสงส่องเข้าเต็มๆ
Wednesday, 18 March 2015 / Published in Uncategorized

     ผ้าม่านที่สร้างความสวยงามและป้องกันแสงแดดให้กับบ้านนั้น เป็นที่สะสมของละอองฝุ่นและสามารถก่อให้เกิดโรคหรืออาการทางภูมิแพ้ต่างๆ แต่ถ้าจะทำการทำความสะอาดผ้าม่านแล้วบางคนถึงกับปวดหัวกันเลยทีเดียวเพราะความยุ่งยากของการซักหรือการทำความสะอาด เรามีวิธีการขั้นตอนการซักง่ายๆ ดั้งนี้

  1. ถอดผ้าม่านออกจากราว จากนั้นถอดตะขอหรืออุปกรณ์ต่างๆ ที่ติดอยู่กับผ้าม่านออก
  2. เลือกผลิตภัณฑ์ที่เหมาะกับชนิดของเนื้อผ้าผ้าม่าน
  3. แช่ผ้าม่านกับน้ำเย็นผสมผงซักฟอกทิ้งไว้ประมาณ 20-30 นาที เพื่อช่วยในการกำจัดฝุ่นให้ออกก่อนนำไปซัก
  4. เมื่อแช่เสร็จแล้วก็เริ่มการซักได้เลย หลายคนซักด้วยเครื่องซักผ้าแต่ผ้าม่านบางชนิดควรซักด้วยมือ
  5. ผสมน้ำส้มสายชูหรือลงไปขณะซัก (ซักด้วยเครื่อง) การผสมน้ำส้มสายชูลงไปเป็นเคล็ดลับที่ช่วยกำจัดคราบเชื้อราและเชื้อแบคทีเรียให้หลุดออกง่ายขึ้น
  6. เมื่อซักเสร็จแล้วควรนำผ้าม่านมาตากทันทีที่ราวม่านเพื่อช่วยให้ผ้าม่านคืนรูปทรงได้ง่ายขึ้น จากนั้นปล่อยให้แห้งตามธรรมชาติ คุณควรเปิดหน้าต่างเพื่อให้ไออุ่นของแสงแดดช่วยให้ผ้าม่านแห้งเร็วขึ้นและไม่อับชื้น
  7. หากคุณมีเตารีดไอน้ำ คุณสามารถใช้เตารีดรีดให้กลีบของผ้าม่านนั้นเรียบและเป็นรูปทรงมากยิ่งขึ้น โดยค่อยๆ รีดจากทางด้านบนลงมาทางด้านล่างตามแนวตั้ง
Wednesday, 18 March 2015 / Published in Uncategorized

ในปัจจุบันนี้ คนส่วนใหญ่มักจะคิดว่าราคาของผ้าม่านที่สั่งทำจากร้านผ้าม่านโดยตรงนั้นแพง ซึ่งบางคนก็อาจจะใช้วิธีที่จะได้ผ้าม่านราคาถูกกว่าปกติ เช่น ตัดเย็บเอง ซื้อผ้าม่านสำเร็จรูปจากร้านค้า ห้างสรรพสินค้าทั่วไป หรือหาร้านเย็บถูกๆ ซึ่งค่อนข้างจะมีความเสี่ยงที่จะได้ผ้าม่านที่ไม่ตรงกับความต้องการจริง หรือไซส์ไม่ตรงตามขนาด การตัดเย็บอาจจะไม่สวย ไม่ได้มาตรฐานอาจจะทำให้เกิดความเสียหาย เสียเงินไปโดยเปล่าประโยชน์

      ผ้าม่านาคาถูก-02      ผ้าม่านาคาถูก-01

TOP